รู้ไหมทำอาชีพเหล่านี้อาจได้บาป ?
ในปัจจุบันคนเราสนับสนุนให้ทำบาปกันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น พวกขายประกัน พวกขายของ หรือพวกขายตรง
ทำไมถึงพูดอย่างนั้นหละ ?
ลองคิดดูดีๆนะครับว่าอาชีพเหล่าหนี้บางทีต้องบิดเบือนความจริงกับลูกค้าเพื่อให้ได้ยอดตามที่หวัง หรืออาจจะโกหกไปเลยก็ได้
อย่างนี้ถือว่าผิดศีลข้อที่ห้ามโกหกไหมครับ ?
และการทีต้องบิดเบือนความจริง เพื่อให้ได้เงินของเขามา อาจจะเป็นการเข้าข่ายการลักขโมย คือผิดศีลการลักทรัพย์ หรือไม่ ? น่าคิดไหมครับ
ทางโลก
การพูดเท็จ คือ การกล่าวเรื่องที่ไม่เป็นความจริงทั้งหมด ให้เข้าใจว่าเป็นความจริงทั้งหมดโดยเจตนา
การลักทรัพย์ คือ ผู้บังอาจเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยการทุจริตและโดยเจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้
ทางธรรม
การพูดเท็จ คือ การเปล่งวาจาที่ให้เข้าใจทางวาจาของบุคคลผู้จงใจจะพูดให้คลาดจากความเป็นจริง
การลักทรัพย์ คือ การลักทรัพย์มีองค์ประกอบ ๕ ประการ คือของที่คนอื่นหวงแหน ๑ ความรู้ว่าเป็นของที่คนอื่นหวงแหน ๑ จิตคิดจะลัก ๑ ความพยายาม (จะลัก) ๑ ลักของได้มาด้วยความพยายามนั้น ๑
ใกล้เคียงกันไหมครับ
แต่พวกที่ทำอาชีพนี้เขาเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "การกระตุ้นยอดขาย" ครับ
ผู้ที่ทำอาชีพนี้อยู่หรือคิดที่จะทำ ขอให้ทำอย่างตรงไปตรงมา แต่ผมเข้าใจนะว่าบ้างครั้งการพูดแต่ความจริงไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือได้เงินมากขึ้นครับ
ธรรม-มาหากิน
วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
ช่างประปาอาชีพที่ไม่สะอาดแต่รายได้งาม
ช่างประปาอาชีพที่ไม่สะอาดแต่รายได้งาม
ปัจจุบันมีบ้านจัดสรรและคอนโดจำนวนมาก หรือพวกหอพักต่างๆ
มีอยู่ 2 สิ่งที่ผมคิดว่าขาดไปสัก 1 วัน ถึงกับชิวิตอาจจะหยุดไปเลยครับ คือน้ำและไฟฟ้า
เคยน้ำไม่ไหลสัก 1 วัน หรือไฟดับสัก 1 วันไหมครับ รำบากมากๆครับยิ่งยุคสมัยใหม่ด้วยแล้ว
ดังนั้นจึงมี 2 อาชีพที่จำเป็นมากๆครับช่างไฟฟ้าและช่างปะปา
พอลองค้นหาดูรายได้ของอาชีพช่างปะปาในต่างประเทศนั้นน่าตกใจมากครับ เพราะรายได้นั้นมากเหลือเกิน
ในอเมริการายได้ของช่างประปาจะอยู่ที่ประมาณ 35,000 -40,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 1,085,000-1,240,000 บาท ต่อปี
ในประเทศไทยรายได้ของช่างประปาจะอยู่ที่ประมาณ 300-1,000 บาท หรือ 1,000 บาท ขึ้นไป หรือบางเจ้าจะคิดเป็นจุด จุดละ 500-1,000 บาท หรือ อาจจะคิดเหมาเป็นงานไปแล้วแต่ตกลงกัน แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณหลักร้อยและหลักพันบาท
ความแตกต่างนี้ก็ขึ้นอยู่กับค่าครองชีพของแต่ละประเทศด้วยครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน ช้างไฟฟ้า ช่างประปา
วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
อาชีพสุดคลาสสิค (ต่อ 2)
อาชีพสุดคลาสสิค (ต่อ 2)
บทความที่แล้วพูดถึงอาชีพสุดคลาสสิคไปแล้ว 1 อาชีพ คือขายปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ เหลืออีก 1 อาชีพ คือขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง มาต่อกัเลยครับ
อาชีพขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นอาชีพที่แสนธรรมดามากครับ แต่เชื่อไหมครับแถวบ้านผมขายดีมาก ขายข้างทาง ทางที่จะเข้าไปในเมือง ช่วงเปิดเทอมโดยเฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ปิ้งกันแทบไม่ทันเลยครับ ถึงขนาดทุกวันนี้ขายแฟรนไชส์กันแล้วครับ เอาสิครับจากข้าวเหนียวหมูปิ้งสู้แฟรนไชส์กันเลยทีเดียว
ทักษะ : ไม่ยากครับทั้งสำหรับคนทำอาหารเป็น ส่วนนึ่งข้าวเหนียวต้องใช้เทคนิคนิหน่อยครับ แต่จะมีหม้อหุ้งข้าวบางรุ่นที่นึ่งข้าวเหนียวได้ด้วยนะครับ
อ้าว...แล้วคนทำอาหารไม่เป็นและอยากขายทำหละจะทำยังไง ?
ทดลองทำไปเลยครับเสียก็กินเองอยู่ดี กินไม่ได้ก็ให้หมา แมว กิน หมาแมวไม่กินก็ทิ้งไป ง่ายไหมครับ 555
ที่อยากจะบอกก็คืออย่าไปกลัวที่จะทำ และอย่าไปกลัวที่จะผิดพลาดครับ มันเป็นประสบการณ์และครูผู้สอนเราครับ ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าได้ลองทำและฝึกฝนหาความรู้ มันจะเกิดความชำนาญขึ้นเองครับ
อีกอย่างครับ อย่างที่บอกเดียวนี้เขามีแฟรนไชส์แล้วครับ ลองหาดูในท้องที่ครับ เพราะส่วนใหญ่เขาจะสอนวิธีการทำให้ด้วยครับ
ทำเล : เช่นเดิมครับ ถ้าได้ทำเลตามตลาดจะดีมากครับแต่ด้วยเป็นอาชีพเสริม บ้านใครติดกับถนน หรือมีรถผ่านที่จะได้โรงเรียน หรือแหล่งชุมชน แค่กางโต๊ะหน้าบ้านก็ได้แล้วครับ ใช้เวลาและความอดทนสักพัก พอคนเขาเห็นและของเราราคาและคุณภาพพอกัน เขาก็จะมาเองครับ ยิ่งสมัยใหม่เช้าคนเราไม่มีเวลามากก็เอาที่สะดวกไว้ก่อนครับ แต่ขอเน้นว่าทางผ่านที่คนเขาจะไปโรงเรียนจะดีมากครับ
การลงทุน : เช่นเดิมครับ แนะนำว่าที่บ้านมีโต๊ะพับ เตาถ่าน ตะแกรงย่าง ถาดใส่ของ หรืออะไรพวกนี้ก็ใช้ไปก่อนครับ ลองดูด้วยว่าเราจะขายได้ประมาณไหนครับ นำเงินไปลงพวกวัดถุดิบและพวกไม้เสีบ ถุงครับ ผมเคยเจอคนที่เลือกซื้อหมูปิ้งจากสีของตะแกรงด้วยนะครับ ถ้าสีไหนใช้มานานเป็นแบบสีดำแล้วก็จะบอกว่าน่าจะอร่อยเพราะขายมานาน ถ้าอันไหนใหม่ๆและดูหน้าแม่ค้ายังวัยรุ่นอยู่ก็จะไม่ซื้อ ผมก็ งง กับเขาเหมือนกันครับ
ข้อดี : เป็นอาหารที่ขายได้เรื่อยๆครับ ใช้ทำเลและพื้นที่ไม่ต้องมากครับ ลงทุนต่ำ
ข้อเสีย : จะยุ่งยากเรื่องเตรียมหมูและการเสียบไม้ครับ และผู้ที่ไม่เคยนึ่งข้าวเหนี่ยวจะยากช่วงหุ่งแรกๆครับถามคิดว่าจะลองจริงจังกับอาชีพนี้ลองหาหม้อหุงข้าวที่หุ่งข้าวเหนียวได้ดูครับจะช่วยได้มากเลยทีเดียว
เสริม : นอกจาก รสชาติ ราคา แล้วมีอีก 1 สิ่งที่น่าสนใจคือรูปลักษณ์ หรือพวก packaging เคยพบเห็นอยู่เจ้าหนึ่งครับขายข้างโรงเรียน เขานำมาใส่กล่องลักษณะตามรูปครับ
ขายราคา 10 บาท ขายดีมากครับ อาจจะเพราะว่าแปลกใหม่ และสะดวกด้วย เวลาพ่อแม่ไปส่งลูกก็ซื้อ 1 กล่อง ลูก 2 คน ก็ 2 กล่อง ง่ายมากครับ สมัยนี้ไม่มีคำว่าแปลกแล้วครับบางทียิ่งแปลกยิ่งดี เพราะพ่อแม่สมัยใหม่ความคิดก็ใหม่ตามและเปิดกว้างมากขึ้นครับ
จบไปกับอาชีพสุดคลาสสิค 2 อาชีพเป็นไงบ้างครับน่าสนใจไหมครับ บ้างคนเขาขายจนรวยไปเลยก็มีครับ
สู้ๆครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูปิ้ง
บทความที่แล้วพูดถึงอาชีพสุดคลาสสิคไปแล้ว 1 อาชีพ คือขายปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ เหลืออีก 1 อาชีพ คือขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง มาต่อกัเลยครับ
อาชีพขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นอาชีพที่แสนธรรมดามากครับ แต่เชื่อไหมครับแถวบ้านผมขายดีมาก ขายข้างทาง ทางที่จะเข้าไปในเมือง ช่วงเปิดเทอมโดยเฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ปิ้งกันแทบไม่ทันเลยครับ ถึงขนาดทุกวันนี้ขายแฟรนไชส์กันแล้วครับ เอาสิครับจากข้าวเหนียวหมูปิ้งสู้แฟรนไชส์กันเลยทีเดียว
ทักษะ : ไม่ยากครับทั้งสำหรับคนทำอาหารเป็น ส่วนนึ่งข้าวเหนียวต้องใช้เทคนิคนิหน่อยครับ แต่จะมีหม้อหุ้งข้าวบางรุ่นที่นึ่งข้าวเหนียวได้ด้วยนะครับ
อ้าว...แล้วคนทำอาหารไม่เป็นและอยากขายทำหละจะทำยังไง ?
ทดลองทำไปเลยครับเสียก็กินเองอยู่ดี กินไม่ได้ก็ให้หมา แมว กิน หมาแมวไม่กินก็ทิ้งไป ง่ายไหมครับ 555
ที่อยากจะบอกก็คืออย่าไปกลัวที่จะทำ และอย่าไปกลัวที่จะผิดพลาดครับ มันเป็นประสบการณ์และครูผู้สอนเราครับ ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าได้ลองทำและฝึกฝนหาความรู้ มันจะเกิดความชำนาญขึ้นเองครับ
อีกอย่างครับ อย่างที่บอกเดียวนี้เขามีแฟรนไชส์แล้วครับ ลองหาดูในท้องที่ครับ เพราะส่วนใหญ่เขาจะสอนวิธีการทำให้ด้วยครับ
ทำเล : เช่นเดิมครับ ถ้าได้ทำเลตามตลาดจะดีมากครับแต่ด้วยเป็นอาชีพเสริม บ้านใครติดกับถนน หรือมีรถผ่านที่จะได้โรงเรียน หรือแหล่งชุมชน แค่กางโต๊ะหน้าบ้านก็ได้แล้วครับ ใช้เวลาและความอดทนสักพัก พอคนเขาเห็นและของเราราคาและคุณภาพพอกัน เขาก็จะมาเองครับ ยิ่งสมัยใหม่เช้าคนเราไม่มีเวลามากก็เอาที่สะดวกไว้ก่อนครับ แต่ขอเน้นว่าทางผ่านที่คนเขาจะไปโรงเรียนจะดีมากครับ
การลงทุน : เช่นเดิมครับ แนะนำว่าที่บ้านมีโต๊ะพับ เตาถ่าน ตะแกรงย่าง ถาดใส่ของ หรืออะไรพวกนี้ก็ใช้ไปก่อนครับ ลองดูด้วยว่าเราจะขายได้ประมาณไหนครับ นำเงินไปลงพวกวัดถุดิบและพวกไม้เสีบ ถุงครับ ผมเคยเจอคนที่เลือกซื้อหมูปิ้งจากสีของตะแกรงด้วยนะครับ ถ้าสีไหนใช้มานานเป็นแบบสีดำแล้วก็จะบอกว่าน่าจะอร่อยเพราะขายมานาน ถ้าอันไหนใหม่ๆและดูหน้าแม่ค้ายังวัยรุ่นอยู่ก็จะไม่ซื้อ ผมก็ งง กับเขาเหมือนกันครับ
ข้อดี : เป็นอาหารที่ขายได้เรื่อยๆครับ ใช้ทำเลและพื้นที่ไม่ต้องมากครับ ลงทุนต่ำ
ข้อเสีย : จะยุ่งยากเรื่องเตรียมหมูและการเสียบไม้ครับ และผู้ที่ไม่เคยนึ่งข้าวเหนี่ยวจะยากช่วงหุ่งแรกๆครับถามคิดว่าจะลองจริงจังกับอาชีพนี้ลองหาหม้อหุงข้าวที่หุ่งข้าวเหนียวได้ดูครับจะช่วยได้มากเลยทีเดียว
เสริม : นอกจาก รสชาติ ราคา แล้วมีอีก 1 สิ่งที่น่าสนใจคือรูปลักษณ์ หรือพวก packaging เคยพบเห็นอยู่เจ้าหนึ่งครับขายข้างโรงเรียน เขานำมาใส่กล่องลักษณะตามรูปครับ
ขายราคา 10 บาท ขายดีมากครับ อาจจะเพราะว่าแปลกใหม่ และสะดวกด้วย เวลาพ่อแม่ไปส่งลูกก็ซื้อ 1 กล่อง ลูก 2 คน ก็ 2 กล่อง ง่ายมากครับ สมัยนี้ไม่มีคำว่าแปลกแล้วครับบางทียิ่งแปลกยิ่งดี เพราะพ่อแม่สมัยใหม่ความคิดก็ใหม่ตามและเปิดกว้างมากขึ้นครับ
จบไปกับอาชีพสุดคลาสสิค 2 อาชีพเป็นไงบ้างครับน่าสนใจไหมครับ บ้างคนเขาขายจนรวยไปเลยก็มีครับ
สู้ๆครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูปิ้ง
อาชีพสุดคลาสสิค
อาชีพสุดคลาสสิค
หลังจากที่เพ้อเจ้อมานานมาเริ่มกันเลยครับ ขอยำนะครับที่นำมาเล่านี้เป็นทั้งที่ศึกษาและเป็นทั้งประสบการณ์ครับ มันอาจจะไม่ตรงกับทฤษฎีต่างๆ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่ขอนำประสบการณ์ดีๆและเรื่องที่น่าสนใจมาเล่าสู้กันฟัง อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ฝึกอ่านภาษาไทยครับ
อาชีพสุดคลาสสิค คืออะไร ?
ในความคิดของผมนั้น คำว่า "คลาสสิค" เหมือนกับ "neverdie" คือมันไม่มีวันตายหรือหายไปครับ
ขอยกตัวอย่างอาชีพสุดคลาสสิคของผมสัก 2 อาชีพ ที่เห็นตั้งแต่เกิดจนโต ได้แก่
1.ขายปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้
2.ขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง
คุณคิดเหมือนผมไหมครับว่าเราเห็นตั้งแต่เกิดจนโตและก็คิดว่าอีก 10 ปี 20 ปี 30 ปี หรือ 100 ปี มันก็คงไม่หายไปแต่อาจจะแตกแนวได้หลากหลายมากขึ้น
ทราบไหมครับว่าปาท่องโก๋ มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่งใต้ ของประเทศจีน หรือประมาณ 1000 กว่าปีแล้วครับ นานมากครับปัจจุบันก็ยังมีอยู่แต่หน้าตาอาจมีการเปลี่ยนไปบ้าง
ส่วนข้าวเหนียวหมูปิ้งนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยครับเพราะว่าเรามีการปิ้งย่างกันตั้งแต่สมัยไหนและทางภาคอีสานก็บริโภคข้าวเหนียวอยู่แล้ว แค่นี้ก็น่าจะมีมานาพอสมควรเลยครับ
มาดูสิ่งจำเป็นของ 2 อาชีพนี้กันครับ
ขายปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้
ทักษะ : จะต้องมีทักษะและความชำนาญด้านการทำขนมพอสมควรครับ ผมเคยขายเบเกอรี่และเรียนเบเกอรี่มาบอกได้เลยครับว่าการปั้นแป้งนวดแป้งจะต้องใช้ความชำนาญพอสมควรเลครับ ส่วนอัตราส่วนนั้นสมัยนี้มีคนนำมาโพสไว้มากมายครับต้องลองหัดทำดูว่าสูตรไหนที่เราคิดว่าดีและเหมาะกับเราครับ ส่วนน้ำเต้าหู้รับมาขายจะง่ายกว่าครับชอบร้านไหนลองติดต่อได้เลยครับเราจะได้ไม่เหนื่อยมากครับเพราะเราหารายได้เสริมครับ
ทำเล : ถ้าได้ทำเลตามตลาดจะดีมากครับแต่ด้วยเป็นอาชีพเสริม บ้านใครติดกับถนน หรือมีรถผ่านที่จะได้โรงเรียน หรือแหล่งชุมชน แค่กางโต๊ะหน้าบ้านก็ได้แล้วครับ ใช้เวลาและความอดทนสักพัก พอคนเขาเห็นและของเราราคาและคุณภาพพอกัน เขาก็จะมาเองครับ ยิ่งสมัยใหม่เช้าคนเราไม่มีเวลามากก็เอาที่สะดวกไว้ก่อนครับ
การลงทุน : แนะนำว่าที่บ้านมีโต๊ะพับ กระทะทอด ถาดใส่ของ หรืออะไรพวกนี้ก็ใช้ไปก่อนครับ ลองดูด้วยว่าเราจะขายได้ประมาณไหนครับ นำเงินไปลงพวกวัดถุดิบจะดีกว่า
ข้อดี : เป็นอาหารที่ขายได้เรื่อยๆครับ ใช้ทำเลและพื้นที่ไม่ต้องมากครับ ลงทุนต่ำ
ข้อเสีย : ต้องมีความชำนาญเรื่องทำแป้งครับ
เสริม : เห็นบางร้านเขามีกาแฟสำเร็จขายหรือพวกนมกล่องด้วย ก็ลองนำมาวางๆดูนะครับพวกนี้เก็บได้นานและสามารถเพิ่มรายได้ให้เราได้โดยไม่ต้องเหนื่อยเพิ่มมากเท่าไหร่ด้วยครับ
นี้คืออาชีพสุดคลาสสิคอาชีพแรก อย่างลืมนะครับปัจจัยหลักอยู่ที่การทำแป้งของเราลองหัดไปเรื่อยๆ ลองผิดลองถูก หรือใครอยากไปเรียนก็ได้ครับ คุณอาจจะมีรายได้เพิ่มวันละ 100-200 บาท ได้เลยนะครับ
สู้ๆครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูปิ้ง
หลังจากที่เพ้อเจ้อมานานมาเริ่มกันเลยครับ ขอยำนะครับที่นำมาเล่านี้เป็นทั้งที่ศึกษาและเป็นทั้งประสบการณ์ครับ มันอาจจะไม่ตรงกับทฤษฎีต่างๆ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่ขอนำประสบการณ์ดีๆและเรื่องที่น่าสนใจมาเล่าสู้กันฟัง อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ฝึกอ่านภาษาไทยครับ
อาชีพสุดคลาสสิค คืออะไร ?
ในความคิดของผมนั้น คำว่า "คลาสสิค" เหมือนกับ "neverdie" คือมันไม่มีวันตายหรือหายไปครับ
ขอยกตัวอย่างอาชีพสุดคลาสสิคของผมสัก 2 อาชีพ ที่เห็นตั้งแต่เกิดจนโต ได้แก่
1.ขายปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้
2.ขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง
คุณคิดเหมือนผมไหมครับว่าเราเห็นตั้งแต่เกิดจนโตและก็คิดว่าอีก 10 ปี 20 ปี 30 ปี หรือ 100 ปี มันก็คงไม่หายไปแต่อาจจะแตกแนวได้หลากหลายมากขึ้น
ทราบไหมครับว่าปาท่องโก๋ มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่งใต้ ของประเทศจีน หรือประมาณ 1000 กว่าปีแล้วครับ นานมากครับปัจจุบันก็ยังมีอยู่แต่หน้าตาอาจมีการเปลี่ยนไปบ้าง
ส่วนข้าวเหนียวหมูปิ้งนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยครับเพราะว่าเรามีการปิ้งย่างกันตั้งแต่สมัยไหนและทางภาคอีสานก็บริโภคข้าวเหนียวอยู่แล้ว แค่นี้ก็น่าจะมีมานาพอสมควรเลยครับ
มาดูสิ่งจำเป็นของ 2 อาชีพนี้กันครับ
ขายปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้
ทักษะ : จะต้องมีทักษะและความชำนาญด้านการทำขนมพอสมควรครับ ผมเคยขายเบเกอรี่และเรียนเบเกอรี่มาบอกได้เลยครับว่าการปั้นแป้งนวดแป้งจะต้องใช้ความชำนาญพอสมควรเลครับ ส่วนอัตราส่วนนั้นสมัยนี้มีคนนำมาโพสไว้มากมายครับต้องลองหัดทำดูว่าสูตรไหนที่เราคิดว่าดีและเหมาะกับเราครับ ส่วนน้ำเต้าหู้รับมาขายจะง่ายกว่าครับชอบร้านไหนลองติดต่อได้เลยครับเราจะได้ไม่เหนื่อยมากครับเพราะเราหารายได้เสริมครับ
ทำเล : ถ้าได้ทำเลตามตลาดจะดีมากครับแต่ด้วยเป็นอาชีพเสริม บ้านใครติดกับถนน หรือมีรถผ่านที่จะได้โรงเรียน หรือแหล่งชุมชน แค่กางโต๊ะหน้าบ้านก็ได้แล้วครับ ใช้เวลาและความอดทนสักพัก พอคนเขาเห็นและของเราราคาและคุณภาพพอกัน เขาก็จะมาเองครับ ยิ่งสมัยใหม่เช้าคนเราไม่มีเวลามากก็เอาที่สะดวกไว้ก่อนครับ
การลงทุน : แนะนำว่าที่บ้านมีโต๊ะพับ กระทะทอด ถาดใส่ของ หรืออะไรพวกนี้ก็ใช้ไปก่อนครับ ลองดูด้วยว่าเราจะขายได้ประมาณไหนครับ นำเงินไปลงพวกวัดถุดิบจะดีกว่า
ข้อดี : เป็นอาหารที่ขายได้เรื่อยๆครับ ใช้ทำเลและพื้นที่ไม่ต้องมากครับ ลงทุนต่ำ
ข้อเสีย : ต้องมีความชำนาญเรื่องทำแป้งครับ
เสริม : เห็นบางร้านเขามีกาแฟสำเร็จขายหรือพวกนมกล่องด้วย ก็ลองนำมาวางๆดูนะครับพวกนี้เก็บได้นานและสามารถเพิ่มรายได้ให้เราได้โดยไม่ต้องเหนื่อยเพิ่มมากเท่าไหร่ด้วยครับ
นี้คืออาชีพสุดคลาสสิคอาชีพแรก อย่างลืมนะครับปัจจัยหลักอยู่ที่การทำแป้งของเราลองหัดไปเรื่อยๆ ลองผิดลองถูก หรือใครอยากไปเรียนก็ได้ครับ คุณอาจจะมีรายได้เพิ่มวันละ 100-200 บาท ได้เลยนะครับ
สู้ๆครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูปิ้ง
วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
ต้องเลือก ?
ต้องเลือก ?
การที่เราจะทำอะไรเราควรที่จะวางแผนก่อนครับยิ่งเป็นอาชีพแล้วเราควรจะวางแผนและคิดให้ดีครับ
คนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมักจะวางแผนชีวิตเสมอครับ อย่างการประกอบอาชีพครับในความคิดของผมนั้นเราต้องแยกและระบุให้ได้ก่อนครับว่าสิ่งที่เราทำอยู่ หรือสิ่งที่เราจะทำ หรือความน่าจะเป็นในอนาคต เป็นอย่างไรบ้าง ต้องคิดแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะครับ เช่น
วันนี้เรามีงานประจำทำเงินเดือน 9,000 บาท รายรับไม่พอกับรายจ่ายต้องหาอาชีพเสริม สิ่งที่เราต้องคิดคือ
- เรามีเวลาว่างช่วง 6.00 น.-7.30 น. เหมาะที่จะทำอะไรดี
- เรามีเวลาว่างช่วง 17.00 น.-21.00 น. เหมาะที่จะทำอะไรดี
- เรามีเวลาว่างวันเสาร์-อาทิตย์ เหมาะที่จะทำอะไรดี
- เรามีเงินทุนเท่าไหร่หรือจะหาอะไรทำที่ไม่ต้องใช้เงินทุนดี
- เรามีความถนัดด้านไหน และชอบอะไร
- พื่นที่ ที่เราอยู่เป็นอย่างไรบ้าง
เห็นไหมครับอันนี้แค่เริ่มที่จะทำ และสิ่งที่สำคัญอีก 1 อย่างคือ "ทำจะเป็นรายได้หลัก รายได้เสริม หรือเพื่อปูพื้นฐานสู่อนาคต"
ย้ำนะครับว่า "ทำจะเป็นรายได้หลัก รายได้เสริม หรือเพื่อปูพื้นฐานสู่อนาคต"
เหตุที่ย้ำเพราะอะไร
1.บ้างคนลงทุนแล้วอยากได้เงินเยอะๆ อันนี้ไม่ผิดครับ ทุกคนต้องการแน่นอนครับ
2.อย่างผมคิดว่ามีเงินเดือนประจำแต่ไม่พอใช้ ถ้ามีรายได้เข้ามาเพิ่มสัก 2,000 บาทต่อเดือนก็น่าจะดี
ต่างกันไหมครับ
เพราะบ้างคนอาจจะมองรายได้เสริมเป็นรายได้หลักไป เช่น ไปขายทำไม ได้วันละ 100-200 บาทเอง แต่ลองคิดดูครับว่า 1 เดือน 30 วันได้เท่าไหร่ วันละ 100 บาท ก็ได้ 3,000 บาท ครับจากที่ตั้งเป้าไว้ว่าขอรายได้เสริมสัก 2,000 บาทต่อเดือน เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ตั้ง 1,000 บาทเลยทีเดียว และด้วยช่วงเวลาที่ทำมันคุ้มค่า
นี้ครับคือสิ่งที่ผมคิดว่าเราต้องเลือก ความพอใจอยู่ที่ตรงไหน เป้าหมายอยู่ที่จุดไหน เพราะของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
อันนี้คิดแบบง่ายๆ หรือ แบบบ้านๆ ลองคิดและตัดสินใจดูนะครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน
การที่เราจะทำอะไรเราควรที่จะวางแผนก่อนครับยิ่งเป็นอาชีพแล้วเราควรจะวางแผนและคิดให้ดีครับ
คนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมักจะวางแผนชีวิตเสมอครับ อย่างการประกอบอาชีพครับในความคิดของผมนั้นเราต้องแยกและระบุให้ได้ก่อนครับว่าสิ่งที่เราทำอยู่ หรือสิ่งที่เราจะทำ หรือความน่าจะเป็นในอนาคต เป็นอย่างไรบ้าง ต้องคิดแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะครับ เช่น
วันนี้เรามีงานประจำทำเงินเดือน 9,000 บาท รายรับไม่พอกับรายจ่ายต้องหาอาชีพเสริม สิ่งที่เราต้องคิดคือ
- เรามีเวลาว่างช่วง 6.00 น.-7.30 น. เหมาะที่จะทำอะไรดี
- เรามีเวลาว่างช่วง 17.00 น.-21.00 น. เหมาะที่จะทำอะไรดี
- เรามีเวลาว่างวันเสาร์-อาทิตย์ เหมาะที่จะทำอะไรดี
- เรามีเงินทุนเท่าไหร่หรือจะหาอะไรทำที่ไม่ต้องใช้เงินทุนดี
- เรามีความถนัดด้านไหน และชอบอะไร
- พื่นที่ ที่เราอยู่เป็นอย่างไรบ้าง
เห็นไหมครับอันนี้แค่เริ่มที่จะทำ และสิ่งที่สำคัญอีก 1 อย่างคือ "ทำจะเป็นรายได้หลัก รายได้เสริม หรือเพื่อปูพื้นฐานสู่อนาคต"
ย้ำนะครับว่า "ทำจะเป็นรายได้หลัก รายได้เสริม หรือเพื่อปูพื้นฐานสู่อนาคต"
เหตุที่ย้ำเพราะอะไร
1.บ้างคนลงทุนแล้วอยากได้เงินเยอะๆ อันนี้ไม่ผิดครับ ทุกคนต้องการแน่นอนครับ
2.อย่างผมคิดว่ามีเงินเดือนประจำแต่ไม่พอใช้ ถ้ามีรายได้เข้ามาเพิ่มสัก 2,000 บาทต่อเดือนก็น่าจะดี
ต่างกันไหมครับ
เพราะบ้างคนอาจจะมองรายได้เสริมเป็นรายได้หลักไป เช่น ไปขายทำไม ได้วันละ 100-200 บาทเอง แต่ลองคิดดูครับว่า 1 เดือน 30 วันได้เท่าไหร่ วันละ 100 บาท ก็ได้ 3,000 บาท ครับจากที่ตั้งเป้าไว้ว่าขอรายได้เสริมสัก 2,000 บาทต่อเดือน เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ตั้ง 1,000 บาทเลยทีเดียว และด้วยช่วงเวลาที่ทำมันคุ้มค่า
นี้ครับคือสิ่งที่ผมคิดว่าเราต้องเลือก ความพอใจอยู่ที่ตรงไหน เป้าหมายอยู่ที่จุดไหน เพราะของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
อันนี้คิดแบบง่ายๆ หรือ แบบบ้านๆ ลองคิดและตัดสินใจดูนะครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน
จรรยาบรรณ
จรรยาบรรณ
คนส่วนใหญ่จะมีคำพูดสุดคลาสสิคอยู่ 1 คำครับ "ไม่มีเวลา" ผมก็ไม่เข้าใจว่า 1 วัน มี 24 ชั่วโมง และ คำว่า "ไม่มีเวลา" ของเขาคือเขามีเวลาแค่ 20 ชั่วโมงหรืออย่างไร ?
ผมเคยฟังเดี่ยวของคุณตัน ภาสกรนที หรือคุณตัน อิชิตัน พูดไว้ว่า "เขาไม่มีทางที่จะไม่ประสบความสำเร็จ ตราบเท่าที่เขาไม่ขี้เกียจและใช้เงินเกินตัว" เป็นคำพูดที่จริง จริงๆ ครับ
ในทางธรรมแล้วพระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ที่มีโภคทรัพย์มากนั้นเพราะ ในอดีตชาติของเขาถวายข้าวและน้ำแด่สงฆ์ และถวายพวกทาน ผลบุญเลยส่งเสริมให้เขามีโภคทรัพย์
ดังนั้นคนเรานั้นจะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องพึ่งทั้ง 2 อย่างครับ หรืออาจจะว่าทั้งเก่งทั้งเฮงครับ
อีก 1 สิ่งที่อยากจะเน้นมากก็คือ สมัยนี้ไม่ค่อยเห็น "จรรยาบรรณ" ของอาชีพต่างๆ แล้วครับ พอเห็นเงินทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยตั้งปณิฐานไว้ก็หายวับไป เงินมางานเดิน หรือจะทำอะไรทีต้องมีสินน้ำใจบ้าง
จะว่าไปในสมัยก่อนนั้นจะไปไหนมาหาใครทีก็ต้อง "มีข้าวมีของติดไม้ติดมือ" ไป จน ปัจจุบันนั้นกลายมาเป็นว่าจะทำอะไรทีต้อง "มีเงินมีทองติดไม้ติดมือ" ไปแทนครับ มันกลายเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
ไม่ขอยกตัวอย่างแล้วกันนะครับว่าอาชีพอะไร เพราะแทบจะทุกอาชีพก็ว่าได้ เราก็เห็นและรู้กันอยู่ว่าเป็นเช่นไร ยิ่งในสังคมที่แข่งขันกันสูงอย่าง กทม. ด้วยยิ่งพบเจอมากทีเดียว
ขอยกคำในนวนิยายสามก๊กที่ผมชื่นชอบมา 1 ประโยคครับ
"อันกิจการบ้านเมื่องนั้นจะปกติสุขได้ จะต้องรับคนดีมีฝีมือเขามาทำงาน ถ้าไม่รับคนดีมีฝีมือเขามาแล้วไซ้ บ้านเมื่องจะฟั่นเฟือนไป"
ประมาณนี้นะครับถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นงานราชการหรืองานบริษัทแล้วถ้าไม่รับคนดีมีฝีมือเข้ามาทำงานเห็นแก่พวกพ้องหรือสินบนสินล่าง ที่นั้นๆจะต้องวุ่นวายเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นระดับหัวหน้าด้วยแล้วถ้าไม่ใช่คนดีมีฝีมือก็จะยิ่งแย่เขาไปอีกครับ
ขอฝากเอาไว้ด้วยนะครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน
คนส่วนใหญ่จะมีคำพูดสุดคลาสสิคอยู่ 1 คำครับ "ไม่มีเวลา" ผมก็ไม่เข้าใจว่า 1 วัน มี 24 ชั่วโมง และ คำว่า "ไม่มีเวลา" ของเขาคือเขามีเวลาแค่ 20 ชั่วโมงหรืออย่างไร ?
ผมเคยฟังเดี่ยวของคุณตัน ภาสกรนที หรือคุณตัน อิชิตัน พูดไว้ว่า "เขาไม่มีทางที่จะไม่ประสบความสำเร็จ ตราบเท่าที่เขาไม่ขี้เกียจและใช้เงินเกินตัว" เป็นคำพูดที่จริง จริงๆ ครับ
ในทางธรรมแล้วพระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ที่มีโภคทรัพย์มากนั้นเพราะ ในอดีตชาติของเขาถวายข้าวและน้ำแด่สงฆ์ และถวายพวกทาน ผลบุญเลยส่งเสริมให้เขามีโภคทรัพย์
ดังนั้นคนเรานั้นจะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องพึ่งทั้ง 2 อย่างครับ หรืออาจจะว่าทั้งเก่งทั้งเฮงครับ
อีก 1 สิ่งที่อยากจะเน้นมากก็คือ สมัยนี้ไม่ค่อยเห็น "จรรยาบรรณ" ของอาชีพต่างๆ แล้วครับ พอเห็นเงินทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยตั้งปณิฐานไว้ก็หายวับไป เงินมางานเดิน หรือจะทำอะไรทีต้องมีสินน้ำใจบ้าง
จะว่าไปในสมัยก่อนนั้นจะไปไหนมาหาใครทีก็ต้อง "มีข้าวมีของติดไม้ติดมือ" ไป จน ปัจจุบันนั้นกลายมาเป็นว่าจะทำอะไรทีต้อง "มีเงินมีทองติดไม้ติดมือ" ไปแทนครับ มันกลายเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
ไม่ขอยกตัวอย่างแล้วกันนะครับว่าอาชีพอะไร เพราะแทบจะทุกอาชีพก็ว่าได้ เราก็เห็นและรู้กันอยู่ว่าเป็นเช่นไร ยิ่งในสังคมที่แข่งขันกันสูงอย่าง กทม. ด้วยยิ่งพบเจอมากทีเดียว
ขอยกคำในนวนิยายสามก๊กที่ผมชื่นชอบมา 1 ประโยคครับ
"อันกิจการบ้านเมื่องนั้นจะปกติสุขได้ จะต้องรับคนดีมีฝีมือเขามาทำงาน ถ้าไม่รับคนดีมีฝีมือเขามาแล้วไซ้ บ้านเมื่องจะฟั่นเฟือนไป"
ประมาณนี้นะครับถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นงานราชการหรืองานบริษัทแล้วถ้าไม่รับคนดีมีฝีมือเข้ามาทำงานเห็นแก่พวกพ้องหรือสินบนสินล่าง ที่นั้นๆจะต้องวุ่นวายเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นระดับหัวหน้าด้วยแล้วถ้าไม่ใช่คนดีมีฝีมือก็จะยิ่งแย่เขาไปอีกครับ
ขอฝากเอาไว้ด้วยนะครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน
วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
อาชีพที่ห้ามทำ
อาชีพที่ห้ามทำ
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามี 5 อาชีพที่ห้ามทำ แต่ในปัจจุบันนั้นอาชีพเหล่านั้นทำให้คนร่ำรวยกันนับไม่ถ้วน ซึ่งได้แก่
1.ขายศาสตรา ๑ เช่น ค้าขายปีน อาวุธต่าง หรือพวกเครื่องเมื่อจับสัตว์ ดักสัตว์ หรือสิ่งที่สามารถฆ่าชีวิตได้
2.ขายสัตว์ ๑ เช่น พวกโรงฆ่าสัตว์ต่างๆ หรือที่เลี้ยงเพื่อนำไปฆ่า ค้ามนุษญ์
3.เนื้อสัตว์ ๑ เช่น เหมือนกับข้อ 2 ครับ แต่ถ้าพวกร้านอาหารไม่ได้ไปสั่งเขาฆ่าจำนวนเท่านี้ เท่านั้น ไปซื้อเนื้อที่เขาทำเรียบร้อยแล้วมาปรุงอาหารขายก็ไม่ได้เข้าข่ายข้อนี้ครับ
4.น้ำเมา ๑ เช่น เหล้า เบียร์ รวมถึงพวกบุหรี่หรือสารเสพติดต่างๆครับ
5.ยาพิษ ๑ เช่น ยาฆ่าแมลง ยาที่มีผลต่อชีวิตสิ่งมีชีวิตต่างๆ
อาชีพเหล่านี้ได้เงินมากก็จริงแต่ก็บาปมากตามไปด้วยครับ ยิ่งได้เงินมากเท่าไหร่ บาปก็จะยิ่งมากขึ้นตามจำนวนเงินไปด้วย
บ้างคนก็อาจจะถามว่า : อ้าว...อย่างนี้ถ้าโลกนี้ไม่มีคนพวกนี้แล้วจะเป็นอย่างไร ?
ซึ่งคำตอบก็คือ : มันเป็นไปไม่ได้ครับที่จะไม่มีคนที่จะประกอบอาชีพเหล่านี้ในโลกเลยครับ...เพราะมันเป็นกรรมใคร กรรมมันครับ
อันนี้เป็นข้อมูลทางธรรมนะครับ
ซึ่งผมได้ทำ blog ศึกษาเกี่ยวกับธรรมไว้ครับถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่
http://seuksaatam.blogspot.com/
บทความหน้าจะเริ่มเขียนถึงพวกอาชีพต่างๆครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Tag : อาชีพ อาชีพต้องห้าม อาชีพที่ห้ามทำ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)