จรรยาบรรณ
คนส่วนใหญ่จะมีคำพูดสุดคลาสสิคอยู่ 1 คำครับ "ไม่มีเวลา" ผมก็ไม่เข้าใจว่า 1 วัน มี 24 ชั่วโมง และ คำว่า "ไม่มีเวลา" ของเขาคือเขามีเวลาแค่ 20 ชั่วโมงหรืออย่างไร ?
ผมเคยฟังเดี่ยวของคุณตัน ภาสกรนที หรือคุณตัน อิชิตัน พูดไว้ว่า "เขาไม่มีทางที่จะไม่ประสบความสำเร็จ ตราบเท่าที่เขาไม่ขี้เกียจและใช้เงินเกินตัว" เป็นคำพูดที่จริง จริงๆ ครับ
ในทางธรรมแล้วพระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ที่มีโภคทรัพย์มากนั้นเพราะ ในอดีตชาติของเขาถวายข้าวและน้ำแด่สงฆ์ และถวายพวกทาน ผลบุญเลยส่งเสริมให้เขามีโภคทรัพย์
ดังนั้นคนเรานั้นจะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องพึ่งทั้ง 2 อย่างครับ หรืออาจจะว่าทั้งเก่งทั้งเฮงครับ
อีก 1 สิ่งที่อยากจะเน้นมากก็คือ สมัยนี้ไม่ค่อยเห็น "จรรยาบรรณ" ของอาชีพต่างๆ แล้วครับ พอเห็นเงินทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยตั้งปณิฐานไว้ก็หายวับไป เงินมางานเดิน หรือจะทำอะไรทีต้องมีสินน้ำใจบ้าง
จะว่าไปในสมัยก่อนนั้นจะไปไหนมาหาใครทีก็ต้อง "มีข้าวมีของติดไม้ติดมือ" ไป จน ปัจจุบันนั้นกลายมาเป็นว่าจะทำอะไรทีต้อง "มีเงินมีทองติดไม้ติดมือ" ไปแทนครับ มันกลายเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
ไม่ขอยกตัวอย่างแล้วกันนะครับว่าอาชีพอะไร เพราะแทบจะทุกอาชีพก็ว่าได้ เราก็เห็นและรู้กันอยู่ว่าเป็นเช่นไร ยิ่งในสังคมที่แข่งขันกันสูงอย่าง กทม. ด้วยยิ่งพบเจอมากทีเดียว
ขอยกคำในนวนิยายสามก๊กที่ผมชื่นชอบมา 1 ประโยคครับ
"อันกิจการบ้านเมื่องนั้นจะปกติสุขได้ จะต้องรับคนดีมีฝีมือเขามาทำงาน ถ้าไม่รับคนดีมีฝีมือเขามาแล้วไซ้ บ้านเมื่องจะฟั่นเฟือนไป"
ประมาณนี้นะครับถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นงานราชการหรืองานบริษัทแล้วถ้าไม่รับคนดีมีฝีมือเข้ามาทำงานเห็นแก่พวกพ้องหรือสินบนสินล่าง ที่นั้นๆจะต้องวุ่นวายเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นระดับหัวหน้าด้วยแล้วถ้าไม่ใช่คนดีมีฝีมือก็จะยิ่งแย่เขาไปอีกครับ
ขอฝากเอาไว้ด้วยนะครับ
Tag : อาชีพหลัก อาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ เงิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น